
หุ้นคุณค่า กับ หุ้นเติบโต ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับแผนการลงทุนของคุณ
หุ้นคุณค่า คืออะไร?
หุ้นคุณค่า คือหุ้นของบริษัทที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่ามีพื้นฐานการดำเนินงานดี มีกำไรสม่ำเสมอ แต่ราคาตลาดกลับต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น นักลงทุนหลายคนเรียกหุ้นประเภทนี้ว่า “ของดีราคาถูก” โดยทั่วไปแล้ว บริษัทเหล่านี้มักจะมีประวัติการดำเนินงานมาอย่างยาวนาน มีการจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ และมีความมั่นคงทางการเงิน
จุดเด่นของหุ้นคุณค่า คือราคาหุ้นมักจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน มีอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มองการลงทุนในระยะยาว และต้องการกระแสเงินสดจากเงินปันผล
ข้อควรระวัง คือราคาหุ้นอาจไม่ได้ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่เหมาะกับนักลงทุนที่หวังผลกำไรในระยะสั้น และการลงทุนในหุ้นแบบนี้ต้องใช้ความอดทนในการถือครองหุ้นระยะยาว
หุ้นเติบโต คืออะไร?
หุ้นเติบโต คือหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านรายได้ กำไร และมูลค่ากิจการ บริษัทเหล่านี้มักอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่กำลังมาแรง เช่น เทคโนโลยี พลังงานสะอาด หรือบริษัทที่มีวิทยาการการแพทย์ขั้นสูง นักลงทุนที่เลือกลงทุนในหุ้นเติบโต มักต้องการผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain) มากกว่ารายได้จากเงินปันผลระยะยาว
จุดเด่นของหุ้นเติบโต คือมีศักยภาพในการขยายตัวสูง มักมีผลประกอบการโดดเด่น มูลค่าหุ้นเติบโตเร็ว อัตราส่วนทางการเงินอย่าง P/E และ P/BV อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรม เพราะนักลงทุนมีความคาดหวังต่อการเติบโตในอนาคต
ข้อควรระวัง คือราคาหุ้นอาจสูงกว่าพื้นฐานจริงของบริษัท ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง และโดยมากมักจะไม่มีการจ่ายเงินปันผล
หุ้นคุณค่า และ หุ้นเติบโต ต่างกันอย่างไร และควรลงทุนหุ้นแบบไหนดี?
หากจะเปรียบเทียบระหว่างหุ้นคุณค่ากับหุ้นเติบโตในแง่ของอัตราส่วนทางการเงิน หุ้นคุณค่ามักมีอัตรา P/E Ratio และ P/BV Ratio ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ขณะที่หุ้นเติบโตมักมีอัตราส่วนเหล่านี้อยู่ในระดับสูง เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังการเติบโตที่ก้าวกระโดดในอนาคต
แต่หากจะมองในด้านผลประกอบการ หุ้นคุณค่าจะมีรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างมั่นคง มีเสถียรภาพทางกระแสเงินสด ส่วนหุ้นเติบโตจะมีการเติบโตที่รวดเร็ว แต่ความสม่ำเสมออาจไม่เท่าหุ้นคุณค่า
สำหรับการจ่ายเงินปันผล หุ้นคุณค่ามักให้เงินปันผลในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ขณะที่หุ้นเติบโตอาจจ่ายปันผลน้อยมาก หรือไม่มีเลย เนื่องจากบริษัทมักนำกำไรไปลงทุนต่อเพื่อขยายกิจการ
ในแง่ของความผันผวน หุ้นเติบโตมีแนวโน้มผันผวนมากกว่า เพราะนักลงทุนให้ความสำคัญกับตัวเลขการเติบโตสูง หากผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด ราคาหุ้นอาจร่วงแรง ในขณะที่หุ้นคุณค่ามีความผันผวนต่ำกว่า และมักเป็นหุ้นของกิจการที่ผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจมาแล้วหลายรอบ
ค่า P/E Ratio และ P/BV Ratio บอกอะไรเกี่ยวกับหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่า
ค่า P/E Ratio และ P/BV Ratio เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยให้นักลงทุนแยกแยะระหว่าง "หุ้นคุณค่า" และ "หุ้นเติบโต" ได้ชัดเจน โดยหุ้นคุณค่ามักมีค่า P/E และ P/BV ต่ำ แสดงว่าราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น เหมาะกับผู้ที่มองการลงทุนระยะยาวและต้องการรับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่หุ้นเติบโตมักมีค่า P/E และ P/BV สูง เพราะนักลงทุนคาดหวังว่าบริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต จึงยอมซื้อในราคาที่สูงกว่า โดยทั่วไป หุ้นคุณค่านิ่งและมั่นคง ส่วนหุ้นเติบโตให้โอกาสทำกำไรจากส่วนต่างราคาที่มากกว่าแต่มีความผันผวนสูงกว่าเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ P/E และ P/BV
การเข้าใจอัตราส่วนพื้นฐานของผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเลือกหุ้น หากคุณต้องการเปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่ใช้งานได้จริง IUX คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักลงทุนนำความรู้ที่มีไปต่อยอดเป็นแผนการลงทุนที่ชัดเจน พร้อมรองรับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ไปจนถึงการลงมือสร้างพอร์ตอย่างมีเป้าหมาย
เปิดบัญชีกับ IUX วันนี้ เพื่อยกระดับการลงทุนของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น
หุ้นคุณค่า และ หุ้นเติบโต แบบไหนเหมาะกับคุณ?
หากคุณเป็นนักลงทุนที่มองหารายได้ระยะยาวจากเงินปันผล และยอมรับผลตอบแทนที่ค่อยเป็นค่อยไป หุ้นคุณค่าอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ตรงกันข้าม หากคุณยอมรับความผันผวนได้มากกว่า และต้องการผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หุ้นเติบโตอาจเหมาะกับคุณมากกว่า
ทั้งนี้ การลงทุนไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป คุณสามารถผสมผสานทั้งหุ้นคุณค่าและหุ้นเติบโตไว้ในพอร์ตการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง และให้พอร์ตมีความยืดหยุ่นได้ในทุกสภาพตลาด
การเลือกหุ้นไม่ควรดูแค่ประเภทว่าคุณค่าหรือเติบโตเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาร่วมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ ระยะเวลาการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ การรู้จักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของการสร้างพอร์ตที่มั่นคง และเติบโตได้ในระยะยาว
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน