Leverage ในตลาดทองคำ: ทำไมถึงเป็นที่นิยม?

ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทองคำไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อหรือการอ่อนค่าของสกุลเงิน แต่ทองคำยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นักลงทุนใช้ทองคำเป็นเครื่องมือในการรักษาความมั่นคงทางการเงิน เมื่อมองจากมุมมองของการลงทุนแล้ว ทองคำไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และแม้แต่ในเรื่องของวัฒนธรรมอีกด้วย

สิ่งที่ทำให้การลงทุนในทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นคือการใช้ Leverage ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสัญญาหรือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่ตนเองมี การใช้ Leverage ในตลาดทองคำเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่นักลงทุนใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร และมันก็กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดทองคำ

ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมสำหรับการลงทุนในทุกยุคสมัย และการใช้ Leverage ยิ่งทำให้การลงทุนในตลาดทองคำทรงพลังมากขึ้น IUX ช่วยให้นักลงทุนทุกระดับสามารถเข้าถึงตลาดทองคำได้อย่างง่ายดาย พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยขยายขอบเขตการลงทุนของคุณ เช่น การใช้ Leverage ที่ปลอดภัยและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ไม่ว่าคุณกำลังมองหาโอกาสในช่วงตลาดผันผวนหรือกำลังวางแผนการลงทุนระยะยาว IUX คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ สมัครเลยวันนี้ แล้วก้าวเข้าสู่โลกการเทรดทองคำที่ไร้ขีดจำกัด!

ความสัมพันธ์ระหว่างทองคำกับภาวะเศรษฐกิจ

ทองคำ นับได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมาโดยตลอด ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนหรือวิกฤตต่าง ๆ เช่น วิกฤตการเงินในปี 2008 นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ต เนื่องจากทองคำมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างเช่น หุ้นหรือตราสารหนี้ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนจากการจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินปันผลจากการถือครอง แต่เป็นสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ในระยะยาว

ตัวอย่างหนึ่งของความสำคัญของทองคำเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 เมื่อธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ประสบกับการขาดทุนอย่างรุนแรง และหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดโลกปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงนี้ ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปหามากที่สุด และราคาของทองคำก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2011 ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ในเวลานั้น

ในสถานการณ์เช่นนี้ การใช้ Leverage ทำให้ความต้องการทองคำยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนสามารถลงทุนด้วยทุนที่น้อยกว่ามูลค่าจริง แต่มีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น การใช้ Leverage ช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มขนาดมูลค่าการถือครองทองคำได้ในช่วงเวลาที่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างการใช้ Leverage ในอดีตกับการลงทุนทองคำ

ย้อนกลับไปในช่วงปี 1980 ทองคำมีบทบาทสำคัญในตลาดการลงทุนเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลกทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงถึงประมาณ 850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนมกราคม 1980 ซึ่งเป็นการเติบโตที่มูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับราคาในช่วงต้นทศวรรษ 1970   ("The Power of Gold: The History of an Obsession" โดย Peter L. Bernstein)

นักลงทุนที่ใช้ Leverage ในช่วงเวลานั้นได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาล ด้วยการยืมเงินเพื่อซื้อทองคำที่ราคายังต่ำในช่วงแรก และเมื่อราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในภาวะวิกฤต พวกเขาก็สามารถทำกำไรได้หลายเท่าตัวจากการลงทุนที่ใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ Leverage ในช่วงที่ทองคำมีการปรับตัวขึ้นจากความผันผวนของตลาด

อีกตัวอย่างหนึ่งที่นักลงทุนในตลาดทองคำใช้ Leverage อย่างประสบความสำเร็จคือช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008–2011 ที่กล่าวไปก่อนหน้า นักลงทุนใช้ Leverage เพื่อซื้อทองคำในตอนที่ราคายังอยู่ที่ประมาณ 700-800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำพุ่งขึ้นไปใกล้ระดับ 1,900 ดอลลาร์ การใช้  Leverage ในสถานการณ์นี้ทำให้พวกเขาสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนแบบปกติได้อย่างมหาศาล

และนี่คือเหตุผลที่ Leverage ถึงเป็นที่นิยมในตลาดทองคำ?

1. โอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น

ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างชัดเจนในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือการเมือง ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก การใช้เลเวอเรจในช่วงนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถขยายขนาดการลงทุนได้มากกว่าทุนที่มี ทำให้พวกเขามีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการลงทุนแบบปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

2. สภาพคล่องสูง

ตลาดทองคำเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง หมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำได้อย่างรวดเร็วในปริมาณมาก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสภาพคล่องที่สูงนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การใช้ Leverage ในตลาดทองคำเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะนักลงทุนสามารถเปิดและปิดสถานะได้อย่างรวดเร็วเมื่อราคาทองคำเปลี่ยนแปลง

3. การป้องกันความเสี่ยง

ทองคำยังถูกใช้เป็นสินทรัพย์ในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรือตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนที่ถือหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่อการขาดทุนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมักจะหันมาใช้ทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง และการใช้ Leverage ช่วยให้พวกเขาสามารถถือครองทองคำในปริมาณมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวน

4. ความต้องการจากอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลก

ทองคำไม่เพียงแต่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องประดับ ซึ่งทำให้ทองคำมีความต้องการในตลาดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนักลงทุนจึงมีความมั่นใจว่าการถือครองทองคำจะสามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว แม้ในช่วงที่ตลาดอื่น ๆ มีความผันผวน การใช้ Leverage ในตลาดทองคำช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มปริมาณการถือครองในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงอย่างเช่นทองคำได้

สรุป

Leverage ในตลาดทองคำเป็นที่นิยมเนื่องจากมันสามารถเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่มีความผันผวนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญระดับโลก นอกจากนี้ การที่ตลาดทองคำยังมีสภาพคล่องสูงและถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคง ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการใช้ Leverage เพื่อเพิ่มขนาดมูลค่าการลงทุนของตนเอง เริ่มต้นการเทรดในตลาดทองคำได้แล้ววันนี้ที่ IUX พร้อมดูราคาแบบเรียลไทม์ที่ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาด ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างแม่นยำและสร้างกำไรได้มากขึ้น ถ้าคุณพร้อมแล้ว เริ่มเทรดกับ IUX ได้ที่นี่ สมัครเลย!