คู่มือคำศัพท์ซื้อขาย (Buy/Sell) และคำสั่งอื่น ๆ ที่ต้องรู้ก่อนลงมือเทรด

คู่มือคำศัพท์ซื้อขาย (Buy/Sell) และคำสั่งอื่น ๆ ที่ต้องรู้ก่อนลงมือเทรด

ผู้เริ่มต้น
May 26, 2025
เรียนรู้พื้นฐานคำสั่ง Buy/Sell และคำศัพท์การเทรด เพื่อเริ่มต้นเทรด Forex ทองคำ หรือหุ้นอย่างมั่นใจ พร้อมการควบคุมความเสี่ยงอย่างมีระบบ

ทำความเข้าใจคำสั่ง Buy/Sell และคำศัพท์พื้นฐานก่อนลงมือเทรด

หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นเทรดในตลาด Forex ทองคำ หรือหุ้น หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้ก่อนลงมือคือคำศัพท์พื้นฐานอย่าง Buy/Sell และคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้ในการเปิดออเดอร์ เพราะการเข้าใจคำเหล่านี้จะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรดในแต่ละสถานการณ์ บทความนี้จะทำหน้าที่เป็นคู่มือพื้นฐาน ที่ช่วยให้คุณเข้าใจการใช้คำสั่งเทรดได้อย่างถูกต้อง พร้อมตัวอย่างจากสถานการณ์จริง และแนวทางควบคุมความเสี่ยงอย่างมีระบบ

 


 

คำสั่ง Buy และ Sell 

  • คำสั่ง Buy

Buy หรือคำสั่งซื้อ คือการเปิดออเดอร์เมื่อคุณคาดว่าราคาของสินทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณวิเคราะห์ว่า XAU/USD (ทองคำต่อดอลลาร์) กำลังมีแนวโน้มขาขึ้น การเปิด คำสั่ง Buy XAU/USD จะช่วยให้คุณทำกำไรได้เมื่อราคาปรับตัวขึ้น

  • คำสั่ง Sell

Sell หรือคำสั่งขาย คือการเปิดออเดอร์เมื่อคุณคาดว่าราคาจะลดลง เช่น หากหุ้นบริษัทหนึ่งมีแนวโน้มขาลง คุณอาจเปิด คำสั่ง Sell หุ้น เพื่อเก็งกำไรจากการลดลงของราคา

การเปิดออเดอร์อย่างถูกต้องเป็นพื้นฐานของการเทรด เพราะฉะนั้นการเข้าใจคำสั่ง Buy / Sell อย่างลึกซึ้งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกการตัดสินใจของคุณ

 


 

คำศัพท์การเทรดสำคัญที่ควรรู้ก่อนเริ่ม

คำสั่งพื้นฐานการเทรด

    • Buy: คำสั่งซื้อ เมื่อคาดว่าราคาสินทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้น

    • Sell: คำสั่งขาย เมื่อคาดว่าราคาจะปรับตัวลดลง

    • Spread: ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask โดยทั่วไปแล้ว Spread ที่แคบกว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มากกว่า

    • Leverage: เครื่องมือเพิ่มอำนาจซื้อ-ขาย โดยใช้เงินทุนของโบรกเกอร์มาช่วย เช่น การเปิด Buy Sell ทอง ด้วยค่า Leverage 1:100 จะทำให้คุณเปิดออเดอร์ในจำนวนที่มากกว่าทุนที่มีได้ 

    • Margin: เงินหลักประกันที่ระบบกันไว้ในบัญชี เพื่อรองรับการเปิดออเดอร์ที่ใช้ Leverage โดยขึ้นอยู่กับขนาดของออเดอร์และระดับ Leverage ที่ใช้

สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ Buy and Sell (Trade) และ Leverage (Trade)

 

คำสั่งเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง

การควบคุมความเสี่ยงด้วย Stop Loss และ Take Profit เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสียหายและล็อกกำไรในตลาดที่มีความผันผวน

    • Stop Loss (SL): คำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อราคาขาดทุนถึงจุดที่กำหนด

    • Take Profit (TP): คำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อได้กำไรตามเป้าหมาย

    • Trailing Stop: การกำหนดจุดขาดทุนแบบปรับตามราคาที่เคลื่อนไหวไปในทิศทางบวก ช่วยในการเก็บกำไรจากการเทรดครั้งนั้น

บทความที่คุณอาจสนใจ : การจัดการความเสี่ยงในการเทรดทองคำ

 

คำสั่งแบบ Pending Orders

Pending Order คือคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า ที่ตั้งไว้ให้ระบบเปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ เมื่อราคาขึ้นหรือลงมาถึงระดับที่เรากำหนดไว้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถเฝ้าหน้าจอเทรดตลอดเวลา

    • Buy Limit: สั่งซื้อเมื่อราคาลดลงถึงจุดที่ต้องการ เหมาะกับคนที่คาดว่าราคาจะลงแล้วค่อยซื้อ

    • Sell Limit: สั่งขายเมื่อราคาขึ้นถึงระดับที่ตั้งใจไว้ ใช้เมื่อคุณรอขายในราคาสูง

    • Buy Stop: สั่งซื้อเมื่อราคาทะลุแนวต้าน แสดงว่าราคามีแนวโน้มจะไปต่อ

    • Sell Stop: สั่งขายเมื่อราคาหลุดแนวรับ ใช้เมื่อตลาดมีแนวโน้มจะลงต่อ

    • Buy Stop Limit / Sell Stop Limit:

คำสั่ง Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit เป็นคำสั่งแบบผสมที่ใช้ในกรณีที่คุณต้องการยืนยันทิศทางของราคาว่ากำลังเคลื่อนที่ไปในทางนั้นจริงๆก่อนที่คุณจะเข้าเทรด พร้อมทั้งกำหนดราคาที่ต้องการเข้าด้วยตนเอง

      • Buy Stop Limit: ระบบจะรอให้ราคาขึ้นไปถึงจุด Stop ก่อน (เช่น ทะลุแนวต้าน) แล้วจึงส่งคำสั่ง Buy Limit เพื่อซื้อในราคาที่คุณกำหนดไว้ ซึ่งมักจะต่ำกว่าหรือเท่ากับราคาตลาดหลังทะลุ

      • Sell Stop Limit: ระบบจะรอให้ราคาลงมาถึงจุด Stop ก่อน (เช่น หลุดแนวรับ) แล้วจึงส่งคำสั่ง Sell Limit เพื่อขายในราคาที่คุณตั้งไว้

พูดง่าย ๆ คือ คำสั่งนี้จะช่วยยืนยันว่าราคากำลังเป็นไปในทิศทางที่คุณคาดคิดจริงๆ หลังจากนั้นจะเข้าเทรดก็ต่อเมื่อราคาย่อลงมาในจุดที่คุณตั้งไว้ 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ

 

stop loss take profit

 

ตัวอย่างการใช้คำสั่งต่าง ๆ ในตลาดจริง

  • ทองคำ (Gold)

สมมติว่าคุณติดตามราคาทองและสังเกตว่าราคากำลังขึ้นเหนือแนวต้านสำคัญ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังมา คุณจึงตัดสินใจเปิดคำสั่ง Buy พร้อมกำหนดจุด Stop Loss ไว้ใต้แนวรับ เพื่อจำกัดความเสี่ยงหากราคากลับตัวลง

ในทางกลับกัน หากราคาทองหลุดแนวรับสำคัญและเริ่มเป็นขาลง คุณอาจเลือกเปิดคำสั่ง Sell เพื่อเก็งกำไรจากการปรับตัวลดลงของราคา

  • หุ้น (Stock)

ถ้าคุณกำลังดูกราฟของหุ้นเทคโนโลยีในตลาด NASDAQ แล้วเห็นว่าราคาปรับตัวลงมาสักพักหนึ่ง และเริ่มมีสัญญาณว่าอาจจะกลับตัวขึ้น เช่น มีแท่งเทียนกลับทิศ หรือมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่าง MACD บอกว่าราคาเริ่มเปลี่ยนแนวโน้ม ในกรณีแบบนี้ คุณอาจเลือก เปิดคำสั่ง Buy หุ้น และตั้ง Take Profit (TP) ไว้ที่จุดแนวต้านใกล้ ๆ เพื่อเก็บกำไรเมื่อตลาดดีดตัวขึ้นตามที่คาดไว้

แต่ถ้าหุ้นตัวเดิมกำลังอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง และราคาหลุดแนวรับที่สำคัญ แปลว่าแนวโน้มอาจยังลงต่อไปอีก ในสถานการณ์แบบนี้ นักเทรดบางคนอาจเลือก เปิดคำสั่ง Sell หุ้น เพื่อทำกำไรจากการที่ราคายังลงต่อ

  • Forex (ค่าเงิน)

คู่เงิน EUR/USD เคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งมักทำให้ราคาพุ่งแรง เทรดเดอร์จำนวนมากจึงวางแผนล่วงหน้าด้วยการตั้ง Pending Orders เช่น

    • Buy Stop เหนือกรอบราคา เพื่อเข้าเทรดหากราคาพุ่งขึ้น

    • Sell Stop ใต้กรอบราคา เพื่อเข้าเทรดหากราคาหลุดลง

กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ และสามารถเข้า Buy หรือ Sell ในตลาด forex ได้โดยอัตโนมัติในจังหวะที่ราคาทะลุกรอบ

 

IUX มอบประสบการณ์การเทรดระดับมืออาชีพ ด้วยระบบคำสั่งครบครัน ทั้ง Market Order, Pending Order, SL/TP และ Trailing Stop พร้อม Leverage สูง และ Spread ต่ำ เพื่อให้คุณควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์

สมัครใช้งาน IUX วันนี้ และเข้าถึงโอกาสการลงทุนกว่า 2,000 สินทรัพย์ทั่วโลกได้ทันที!

 


 

ข้อควรระวังในการใช้คำสั่งต่าง ๆ

แม้จะเข้าใจคำสั่งพื้นฐานแล้ว แต่มือใหม่หลายคนยังทำพลาดเพราะมองข้ามข้อควรระวังเกี่ยวกับคำสั่งในการเทรดที่สำคัญเหล่านี้:

  • สับสนระหว่าง Sell กับ Sell Limit: Sell คือขายทันที ส่วน Sell Limit คือรอให้ราคาขึ้นถึงจุดที่ตั้งไว้ก่อนจึงขาย หากใช้ผิดอาจเข้าออเดอร์ผิด

  • วาง SL/TP ไม่เหมาะสม: SL ที่แคบเกินไป หรือ TP ที่ไกลเกินไป อาจทำให้โดนตัดขาดทุนหรือพลาดกำไรง่าย ๆ

  • ใช้คำสั่งผิดจังหวะ: การไม่วางแผนล่วงหน้าหรือใช้คำสั่งไม่เหมาะกับสถานการณ์ เป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดที่มือใหม่ควรตระหนัก

 


 

เข้าใจคำศัพท์ก่อนเทรด ช่วยลดโอกาสพลาด

การเข้าใจ คำศัพท์เทรด, คำสั่ง Buy/Sell, และพื้นฐานของการเทรด เป็นก้าวแรกสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยและความมั่นใจ ยิ่งคุณเข้าใจเครื่องมือเทรดของคุณมากเท่าไหร่ การจัดการความเสี่ยงและการทำกำไรก็จะเป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากตลาดหุ้น ทอง หรือ Forex อย่าข้ามพื้นฐานการเทรดเหล่านี้ เพราะความรู้คือเกราะป้องกันสำคัญของนักลงทุนทุกคน

 

 

 

 

 

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน