
ดัชนี (Indices) คืออะไร? ทำความรู้จักก่อนลงทุนใน Index Fund
ดัชนี คืออะไร?
ดัชนี (Index) ในทางการเงินคือค่าตัวเลขที่ใช้แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในกลุ่มหนึ่ง หรือภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งของตลาด ดัชนีทำหน้าที่เป็นเครื่องชี้วัดภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์หรือหมวดหมู่การลงทุนเฉพาะ เช่น หุ้นขนาดใหญ่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หรือหุ้นตามประเทศ เป็นต้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น
- S&P 500 – ดัชนีที่รวม 500 บริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมและถือเป็นหนึ่งในดัชนีที่นักลงทุนทั่วโลกใช้ติดตามสภาวะตลาด
- NASDAQ Composite – ดัชนีที่เน้นไปที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เช่น Apple, Amazon, Microsoft และบริษัทนวัตกรรมอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนความเคลื่อนไหวของธุรกิจเทคโนโลยีโดยตรง
- FTSE 100 – ดัชนีของบริษัทขนาดใหญ่ 100 แห่งในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ซึ่งมักใช้เป็นตัวชี้วัดสภาพเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
- Nikkei 225 – ดัชนีที่แสดงถึงหุ้นชั้นนำของญี่ปุ่นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
การติดตามดัชนีช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมิน “อุณหภูมิ” ของตลาดโดยรวมได้ในเวลาอันสั้นโดยไม่ต้องวิเคราะห์รายบริษัท
ทำไมดัชนีจึงสำคัญต่อการลงทุน?
-
ดัชนีเป็นตัวชี้วัดสภาพตลาด – หากดัชนีอยู่ในขาขึ้น แสดงว่าหุ้นในตลาดส่วนใหญ่อาจกำลังมีแนวโน้มดี หากดัชนีลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในภาวะซบเซา
-
นักลงทุนใช้ดัชนีเปรียบเทียบผลตอบแทน – นักลงทุนมักจะเปรียบเทียบผลตอบแทนของพอร์ตตนเองกับดัชนีอ้างอิง เช่น หากกองทุนรวมได้ผลตอบแทน 7% แต่ดัชนีตลาดได้ 10% แสดงว่ากองทุนยังทำผลตอบแทนได้ไม่ดีเท่าตลาด
-
ดัชนีเป็นพื้นฐานของผลิตภัณฑ์การลงทุน – ดัชนีเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) และ ETF
หากคุณกำลังมองหาวิธีเริ่มต้นลงทุนในดัชนีหุ้นระดับโลก IUX คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ด้วยการเทรด CFD ที่อ้างอิงจากดัชนีชั้นนำจากทั่วโลก พร้อมเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ระบบซื้อขายรวดเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง คุณสามารถลงทุนตามแนวโน้มตลาดได้โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์จริง เริ่มต้นเทรดกับ IUX วันนี้ เพื่อเปิดประสบการณ์การลงทุนในดัชนีหุ้นอย่างมั่นใจ!
10 อันดับ ดัชนีหุ้นโลก ที่นักลงทุนควรรู้จัก
ทั่วโลกมีดัชนีหุ้นหลายร้อยตัว แต่ต่อไปนี้คือ 10 ดัชนีสำคัญของโลก ที่นักลงทุนควรทำความรู้จัก เพื่อใช้เป็นแนวทางติดตามเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวของตลาดโลก:
-
S&P 500 (สหรัฐอเมริกา) – ดัชนีที่รวม 500 บริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้วัดภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ดีที่สุด
-
Dow Jones Industrial Average (DJIA) – ประกอบด้วย 30 บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ มีความเก่าแก่และได้รับการติดตามมากที่สุดในโลก
-
NASDAQ Composite (สหรัฐอเมริกา) – ดัชนีที่เน้นบริษัทด้านเทคโนโลยี เช่น Apple, Microsoft, Google เหมาะสำหรับผู้สนใจแนวโน้มเทคโนโลยี
-
FTSE 100 (อังกฤษ) – ดัชนีที่รวมบริษัทขนาดใหญ่ 100 แห่งในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน สะท้อนเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
-
DAX (เยอรมนี) – รวม 40 บริษัทชั้นนำของเยอรมนีในตลาดแฟรงก์เฟิร์ต มีจุดเด่นที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งของยุโรป
-
CAC 40 (ฝรั่งเศส) – ประกอบด้วย 40 บริษัทขนาดใหญ่ในปารีส สะท้อนภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของฝรั่งเศส
-
Nikkei 225 (ญี่ปุ่น) – หนึ่งในดัชนีที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย ครอบคลุมบริษัทขนาดใหญ่ในโตเกียว เช่น Toyota, Sony
-
Hang Seng Index (ฮ่องกง) – ดัชนีที่สะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจฮ่องกงและมีความเชื่อมโยงกับจีนแผ่นดินใหญ่
-
Shanghai Composite (จีน) – ดัชนีหลักที่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจจีน รวบรวมบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้
-
MSCI World Index – ดัชนีที่รวมหุ้นจากประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก เป็นตัวแทนของตลาดโลกโดยรวม เหมาะกับการกระจายการลงทุน
Index Fund คืออะไร?
กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) คือกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อเลียนแบบผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล เช่น S&P 500, NASDAQ-100, MSCI World หรือ FTSE 100 โดยผู้จัดการกองทุนจะทำการสร้างพอร์ตการลงทุนให้มีสัดส่วนของหุ้นใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากที่สุด ทั้งในแง่ของการจัดสรรน้ำหนักและการเลือกหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีนั้นๆ
จุดเด่นของกองทุนประเภทนี้คือเน้นการลงทุนแบบ Passive หรือการบริหารกองทุนโดยไม่พยายามเอาชนะตลาด แต่ตั้งใจให้ผลตอบแทนเคลื่อนไหวใกล้เคียงดัชนีที่สุด การดำเนินการของกองทุนจึงมักมีความโปร่งใส ชัดเจน และสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ง่ายกว่า
ข้อดีของ Index Fund ได้แก่:
-
ค่าธรรมเนียมต่ำ : เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบ Passive ผู้จัดการกองทุนไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์เชิงลึกหรือจับจังหวะตลาดเหมือนกองทุนแบบ Active ทำให้ลดต้นทุนการบริหารและค่าธรรมเนียมลงได้มาก
-
กระจายความเสี่ยงได้ดี : เพราะกองทุนลงทุนในหุ้นหลายตัวตามโครงสร้างของดัชนีชั้นนำในแต่ละประเทศ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นรายตัว
-
เหมาะสำหรับมือใหม่ : เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาเลือกหุ้นเอง และไม่จำเป็นต้องมีความรู้ลึกด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐานมากนัก เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นลงทุนและต้องการผลตอบแทนตามภาพรวมของตลาด
ดัชนี ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่เห็นบนหน้าจอตลาดหุ้น แต่ถือเป็นเครื่องมือวัดสุขภาพของตลาดและเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการลงทุนที่เรียบง่ายแต่ได้ผลในระยะยาว ผ่านเครื่องมืออย่าง กองทุนรวมดัชนี (Index Fund)
หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ อยากเริ่มต้นโดยไม่ต้องเลือกหุ้นรายตัว การทำความเข้าใจว่าดัชนีคืออะไร และเลือกลงทุนตามดัชนีสำคัญของโลกผ่านกองทุนรวม อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่งคั่งที่มั่นคงในระยะยาวได้
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน