ETF เหมาะกับใคร? มือใหม่ลงทุนได้ง่าย ๆ แม้ไม่มีเวลา

ETF เหมาะกับใคร? มือใหม่ลงทุนได้ง่าย ๆ แม้ไม่มีเวลา

ผู้เริ่มต้น
Apr 18, 2025
เริ่มต้นลงทุนวันนี้ กับ ETF ทางเลือกสำหรับคนไม่มีเวลาติดตามตลาด ไม่ชอบเลือกหุ้นรายตัว กระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ และเหมาะกับการถือยาวเพื่อเป้าหมายในอนาคต

ETF คืออะไร?

ETF หรือ Exchange Traded Fund คือกองทุนรวมที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีราคาขึ้นลงและสามารถซื้อขายได้เหมือนกับหุ้นทั่วไป แต่มีลักษณะเฉพาะคือจะลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้น ดัชนี พันธบัตร หรือทองคำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับสินทรัพย์หรือดัชนีที่ ETF นั้นอ้างอิง เช่น FTSE 100, S&P 500 หรือ NASDAQ ดังนั้น แทนที่จะต้องซื้อหุ้นหลายตัวด้วยตัวเอง นักลงทุนสามารถซื้อ ETF เพียงตัวเดียวเพื่อกระจายความเสี่ยงและลงทุนในสินทรัพย์ทั้งกลุ่มได้ทันที อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ETF

 


 

การลงทุนใน ETF เหมาะกับใคร?                                                                  

 ETF เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท แต่เหตุผลหลักที่นักลงทุนหลายคนเลือก ETF มีดังนี้

  • ไม่ชอบเลือกหุ้นรายตัว เพราะกระจายความเสี่ยงให้โดยอัตโนมัติผ่านการถือครองหุ้นหลายตัวในกองเดียว ช่วยลดความเสี่ยงจากหุ้นรายตัวได้ทันที

  • มีเวลาน้อย ไม่ได้ติดตามตลาดตลอดเวลา เพราะการลงทุนใน ETF นักลงทุนไม่ต้องติดตามตลาดตลอดเวลา และไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตบ่อย ถือยาวได้สบาย ๆ โดยกองทุนจะปรับโครงสร้างตามดัชนีให้อยู่แล้ว

  • ลงทุนแบบมีเป้าหมายชัดเจน เช่น อยากลงทุนตามดัชนีที่เติบโตระยะยาว ก็สามารถเลือก ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีนั้นได้ทันที ทำให้วางแผนลงทุนง่าย ไม่ต้องคัดหุ้นเองให้ยุ่งยาก

ในภาพรวมแล้ว ETF เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความเรียบง่าย ประหยัดเวลา และอยากเริ่มต้นลงทุนโดยไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลา ก็สามารถใช้วิธีลงทุนแบบตั้งอัตโนมัติหรือแบบ DCA ควบคู่ไปได้

 


 

นักลงทุนมือใหม่เริ่มลงทุนใน ETF ได้ไหม

แน่นอนว่านักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนใน ETF ได้ทันที เพราะรูปแบบของ ETF ถูกออกแบบมาให้เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องมีทักษะวิเคราะห์หุ้นเชิงลึกเหมือนการเลือกหุ้นรายตัว เพียงแค่เข้าใจแนวโน้มและภาพรวมของสินทรัพย์ที่กองทุนนั้นอ้างอิงก็เพียงพอ เช่น หากคุณสนใจการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ก็สามารถเลือกลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงกับดัชนี NASDAQ ซึ่งรวมหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Microsoft, Amazon และ Meta เอาไว้ในกองเดียว หรือจะเป็นสินทรัพย์อื่นอย่างทองคำ ที่อ้างอิงจากราคาทองคำโลก ช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงและติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมหรือสินทรัพย์ได้โดยไม่ต้องเลือกเอง

นอกจากนี้ การลงทุนใน ETF ยังมีข้อดีอีกมากมายที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ โดยเฉพาะในด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูล เพราะนักลงทุนสามารถดูรายละเอียดของกองทุนได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนย้อนหลัง ค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ และองค์ประกอบของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่อยู่ในกองทุน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ETF หรือในหน้าแสดงข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเปรียบเทียบกองทุนแต่ละตัวได้ง่ายก่อนตัดสินใจลงทุน

ยิ่งไปกว่านั้น หลายกองทุนยังมีสื่อการสอน คลิปวิดีโอ หรือบทวิเคราะห์แนวโน้มตลาดประกอบ ทำให้มือใหม่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องตัดสินใจลงทุน และสามารถค่อย ๆ สั่งสมความรู้ไปพร้อมกับการลงทุนจริงได้อีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาวิธีลงทุนที่เรียบง่ายและน่าเชื่อถือ ETF คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ IUX ให้คุณเข้าถึงกองทุน ETF ได้หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับทุกเป้าหมายทางการเงิน เปิดบัญชีกับ IUX วันนี้ แล้วเริ่มสร้างอนาคตทางการเงินในแบบที่คุณวางแผนไว้ได้ทันที!

 


ข้อดีและข้อเสีย ของ ETF

ข้อดีของ ETF:

  • ซื้อขายง่ายเหมือนหุ้นทั่วไป ไม่ต้องรอครบกำหนดเวลาเหมือนกองทุนรวมทั่วไป

  • ค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวมแบบทั่วไป

  • กระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ

  • โปร่งใส สามารถตรวจสอบสินทรัพย์ในพอร์ตได้ตลอด

  • เหมาะกับการลงทุนระยะยาวหรือการทำ DCA

ข้อเสียของ ETF:

  • ETF บางกองทุนมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ซื้อขายยากในบางช่วง

  • อาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากโบรกเกอร์

  • ต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์

  • ไม่สามารถลงทุนเป็นจำนวนเงินเป๊ะ ๆ ได้เหมือนกองทุนรวม (ซื้อเป็นหน่วยเท่านั้น)

 


คนไม่มีเวลา จะลงทุนใน ETF อย่างไรดี?

แม้ไม่มีเวลาติดตามหรือวิเคราะห์ข้อมูลตลาด นักลงทุนก็สามารถใช้ ETF เป็นเครื่องมือวางแผนการเงินได้ เช่น

  • เลือกกองทุน ETF ที่ลงทุนในดัชนีหุ้นตลาดใหญ่ เช่น SET50, S&P500 หรือ MSCI World Index ที่มีความเสี่ยงต่ำและมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว

  • ตั้งการลงทุนแบบอัตโนมัติ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ DCA (Dollar-Cost Averaging) เป็นวิธีที่ช่วยให้เราลงทุนใน ETF อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนโดยไม่ต้องคอยกดซื้อเองทุกครั้ง ระบบจะทำการหักเงินจากบัญชีตามวันที่เราตั้งค่าไว้กับแอปพลิเคชั่นของโบรกเกอร์ที่คุณเปิดบัญชี แล้วนำไปซื้อ ETF ที่เลือกไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างวินัยในการลงทุนแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด เพราะเป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุนไปในตัวอีกด้วย

การลงทุนแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนระยะยาวได้อย่างมั่นคงแม้ไม่มีเวลา และไม่ต้องวุ่นวายกับการเลือกหุ้นรายตัวหรือจับจังหวะตลาด

 

 

 

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน